เชือด “นายกเล็กเมืองอุตรดิตถ์” พ้นจากตำแหน่ง-แถมตัดสิทธิลงสมัครนายกเทศมนตรี ก่อนกาบัตร 28 มี.ค.
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นายนิยม จันทร์เยี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผอ.กกต.) ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือ ที่ อต.(ลต) 52001/06 วันที่ 16 มีนาคม 2564 ลงนามโดยนางพัชรี มีศิริ ผอ.กกต.ประจำเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ แจ้งผู้สมัครที่มีรายชื่อในประกาศบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ โดยนายสำราญ เอื้อจิรวาณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ หมายเลข 1 เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ หลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่งให้นายสำราญ เอื้อจิรวาณิชย์ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ ในวาระการดำรงตำแหน่งตั้งวันที่ 11 มีนาคม 2555 ถึง 31 มกราคม 2564 ดังนั้น นายสำราญจึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ หลังได้รับหนังสือดังกล่าว กกต.จังหวัด จะดำเนินการเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง ผอ.การเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ และนายสำราญ เพื่อสอบปากคำก่อนจะรายงานให้ กกต.กลางทราบและวินิจฉัย พิจารณาเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครรายดังกล่าว เกี่ยวกับบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
สำหรับคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ 590/2564 เรื่องให้นายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ พ้นจากตำแหน่ง ในวาระการดำรงตำแหน่งตั้งวันที่ 11 มีนาคม 2555 ถึง 31 มกราคม 2564 นั้น เป็นผลมาจากปรากฏข้อเท็จจริงตามความเห็น และหลักฐานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายสำราญ พร้อมกับพวกรวม 2 คน ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีร่วมกันเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้าง โดยการอนุญาตให้นำทรัพย์สินของทางราชการไปใช้ในกิจการของผู้รับจ้าง และไม่ได้รายงานให้คณะกรรมการตรวจการจ้าง ฝ่ายพัสดุ และผู้บริหารของเทศบาลทราบว่ามีดินขุดเหลือ และหมดความจำเป็นเพื่อดำเนินการจำหน่ายดินขุด ตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าการกระทำของนายสำราญ มีมูลเป็นการปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 73
นอกจากนี้ นายสำราญ ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา โดยมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการปรับปรุงถนนคอนกรีตเสริมเหล็กบริเวณข้างตลาดเทศบาล 5 ตามสัญญาเลขที่ 15/2560 ลงวันที่ 4 มกราคม 2560 ประเด็นที่กล่าวหาว่า นายสำราญได้เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้างโดยการอนุญาต และสั่งการให้นำรถแบ๊กโฮ ทะเบียน ตค 5061 อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการไปใช้ในกิจการของผู้รับจ้าง นำดินที่ขุดได้จากการดำเนินโครงการดังกล่าว ใส่รถบรรทุกไปถมยังที่ดินของเอกชน โดยนายสำราญ ยืนควบคุมสั่งการการทำงานของรถแบ๊กโฮ ในการปรับเกลี่ยดินขุด และยังมีรถบรรทุกน้ำและรถบรรทุกของเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ อยู่บริเวณใกล้เคียง โดยมีรถของผู้รับจ้างทำงานอยู่ในบริเวณเดียวกัน
ป.ป.ช.และผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำดังกล่าวของนายสำราญ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลเป็นการปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย และสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย แก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาลปี 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 จึงเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งให้นายสำราญ พ้นจากตำแหน่งในวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2555 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564