งานบุญ “อัฐมีบูชา” หรือพิธีจำลองถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระพระพุทธเจ้า จ.อุตรดิตถ์ ประเพณีศักดิ์สิทธิ์หนึ่งเดียวในโลกที่สืบทอดกันมายาวนานเป็นประจำทุกปี
ครั้งนี้กำหนดจัดงานขึ้นในวันที่ 26 พ.ค.2564 ณ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นับเป็นปีที่ 64 โดยมี พระปัญญากรโมลี เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายผล ดำธรรม ผวจ.อุตรดิตถ์ ประธานฝ่ายฆราวาส
นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ เผยว่า วันอัฐมีบูชาคือวันสำคัญทางศาสนาอีกวันหนึ่งที่มิได้กล่าวถึงกันมากนัก เนื่องจากมีวันวิสาขบูชาอยู่ก่อนหน้านี้เพียงห้วงวันพระเดียว หมายถึงวันวิสาขบูชาปีนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 แต่ถัดมาอีกหนึ่งวันพระคือแรม 8 ค่ำ เป็นวันอัฐมีบูชา
ความสำคัญของวันอัฐมีบูชา เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าที่พุทธศาสนิกชนในสมัยเมื่อ 2,564 ปีล่วงมาแล้วต่างโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียพระบรมศาสดาอันเป็นที่รักเคารพยิ่ง
ในพุทธประวัติและปรินิพพานสูตรกล่าวไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ที่เรียกว่าวันวิสาขบูชา พระเจ้ามัลละแห่งกรุงกุสินารา พร้อมด้วยคณะสงฆ์ อันมีพระมหากัสสปะเถระเป็นประธาน พร้อมใจกันกระทำพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ แห่งกรุงกุสินารา
ทุกปีพุทธศาสนิกชนชาวอุตรดิตถ์ร่วมกันจัดงานย้อนอดีตที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งพุทธกาลรวม 9 วัน 9 คืน ส่วนปีนี้จัดเพียงวันเดียว งดการแสดง แสง สี เสียง เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
การจัดงานวันถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าครั้งนี้ เป็นการจำลองเหตุการณ์ในอดีตทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเสมือนครั้งพุทธกาล ตั้งแต่เสด็จปรินิพพาน ชาวบ้านที่มีฝีมือด้านงานจักสานจะช่วยกันใช้ไม้ไผ่สานองค์พระพุทธเจ้าปางปรินิพพานขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างสวยงามบรรจุไว้ในโลงแก้วตั้งประดิษฐานไว้บนศาลา เพื่อให้คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม และชาวบ้านทำบุญตักบาตรปฏิบัติธรรม
เพื่อธำรงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามควรค่าแก่การสืบทอดสู่ลูกหลานต่อไป.
ประสิทธิ์ ผึ้งสุข/รายงาน