เช้านี้ที่หมอชิต – สถานการณ์น้ำภายใน 3 เขื่อนใหญ่ พื้นที่ภาคเหนือ คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ล่าสุด พบว่ามีปริมาณน้ำไหลเข้าน้อยกว่าการระบายน้ำออก
จากสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือช่วงที่ผ่านมา พบว่ายังมีปริมาณน้ำที่น้อย สวนทางกับการระบายน้ำที่มากกว่าปริมาณน้ำใหม่ที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากพื้นที่ภาคกลางมีฝนน้อย จำเป็นต้องระบายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และผลักดันน้ำเค็ม โดยล่าสุด นายวรพจน์ วรพงษ์ ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของเขื่อนภูมิพลขณะนี้ ว่า เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 6,056 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44.99 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ำกักเก็บที่สามารถระบายได้ 2,256 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 23.36 เปอร์เซ็นต์ มีพื้นที่ว่างรองรับน้ำใหม่อีก 7,405 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 55.01 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่วันนี้ เขื่อนภูมิพล ทำการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนเพื่ออุปโภคและบริโภค และการเกษตรในลุ่มเจ้าพระยาแล้ว 22 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ วันนี้ มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งหมด 3,704 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 38.9 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำใช้การได้ประมาณ 854 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 12.8 เปอร์เซ็นต์ มีการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน 16.23 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนที่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก มีน้ำกักเก็บอยู่ที่ 339 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 36.2 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำที่สามารถใช้การได้ 36.2 เปอร์เซ็นต์ โดยวันนี้ได้ระบายน้ำแล้ว 5.18 ล้านลูกบาศก์เมตร