นางสาวพิมพิกา โพธิสาโร รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศอากาศ ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 07:00 น. ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานในจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงใหม่ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี อุบลราชธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานครผลการตรวจวัด PM2.5 แยกตามรายภูมิภาค สรุปได้ดังนี้
• ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 34 – 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีค่าสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานรวม 5 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพเพียง 1 พื้นที่ โดยตรวจพบค่าสูงสุด 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่อำเภอเมือง
จังหวัดแม่ฮ่องสอน สาเหตุที่วันนี้ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเกือบทุกสถานี เนื่องจากเริ่มพบแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของจำนวนจุดความร้อน โดยในวันที่ 24 มีนาคม 2564 พบจุดความร้อนรวมใน 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 471 จุดมีค่าสูงสุดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ น่าน และเชียงใหม่ ประกอบกับภาคเหนือตอนบน ได้รับอิทธิพลจากลมใต้ ความเร็วลมต่ำ จึงอาจส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นค่อนข้างมาก ดังนั้น ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 18 – 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 36 – 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 20 – 45 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 6 – 32 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดได้ 37 – 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐาน 17 พื้นที่ ได้แก่ อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร, อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ, ริมถนนดินแดง ริมถนนลาดพร้าว ริมถนนบางนา-ตราด ริมถนนสุขาภิบาล 5 ริมถนนเลียบวารี ริมถนนศรีนครินทร์ ริมถนนเจริญนคร ริมถนนแยกท่าพระ ริมถนนพุทธมณฑล 1 ริมถนนคลองทวีวัฒนาริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 ริมถนนเอกชัย เขตบางนา เขตดอนเมือง และเขตคลองเตย
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายผลกระทบของสภาพอากาศต่อการสะสมของฝุ่นละออง วันที่ 25 – 31 มีนาคม 2564 ลมที่พัดปกคลุมยังมีกำลังปานกลาง แนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันมีน้อยลง ยกเว้น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลมมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง แนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันมีปานกลาง ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ลมตะวันออกมีกำลังปานกลาง ระดับเพดานการระบายของอากาศยังสูง การสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 ยังมีน้อยตลอดช่วง
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 – 3 วันต่อจากนี้ พื้นที่ภาคเหนืออาจมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และเชียงใหม่ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้ แต่ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดการเผาก่อนที่จะมีฝนตก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละออง
ศกพ. ขอให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ
1. ยังคงควบคุมและดับไฟป่า และควบคุมการเผาในที่โล่ง
2. บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาด
3. ระดมสรรพกำลังเพื่อเพิ่มการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟ
4. เร่งลดเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าโดยการชิงเก็บ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์เศษวัสดุการเกษตรเพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตร
5. เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องกับประชาชน
เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย
6. เร่งสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน พิจารณาจัดแถลงข่าวสถานการณ์และผลการดำเนินงานให้ประชาชนรับทราบ
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ กองทัพภาคที่ 3 และจังหวัดชายแดน ได้เร่งรัดประสานขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ลดและควบคุมการเผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่รอยต่อระหว่างชายแดนและระดับอาเซียน เพื่อลดผลกระทบจากมลพิษหมอกควันข้ามแดน
นางสาวพิมพิกา กล่าวว่า ศกพ. ขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกประเภท หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ เพื่อบรรเทาการสะสมของฝุ่นละอองที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่ออากาศที่ดีของพวกเราทุกคน และขอให้ท่านดูแลสุขภาพ สวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ด้วย
ท่านสามารถเลือกดูข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง โดยติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK และติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage “ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)” นางสาวพิมพิกา กล่าว