อิทธิพลพายุฤดูร้อนกระทบหลายจังหวัด ลูกเห็บตก เสาไฟหักโค่น น้ำท่วม คลื่นสูงทำเรือจม ลูกเรือประมง 2 คน ต้องลอยคอกลางทะเลรอความช่วยเหลือ
วันนี้ (22 มี.ค.2564) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฝนและลูกเห็บตกในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก แรงพายุทำให้ศาลาการเปรียญ วัดช่องแคบ พังถล่มทั้งหลัง ต้นไม้ รวมทั้งเสาไฟฟ้าหักโค่นปิดทับเส้นทางหลายจุด เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ขณะที่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักวันนี้ ทำให้ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากระบายไม่ทัน ทั้งถนนหน้าโรงเรียนพรหมานุสรณ์ ตลาดเพชรไพบูลย์พลาซา โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ หน้าวัดพระนอนตลอดสาย ทำให้การสัญจรไปมาค่อนข้างลำบากโดยเฉพาะรถเล็ก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
คลื่นลมแรงซัดเรือประมงจม
ขณะที่ลูกเรือประมง ส.เพลินตา 2 คน ต้องลอยคออยู่กลางทะเลเป็นเวลานานกว่าจะมีเรือประมงลำอื่นมาช่วยไว้ได้ หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาถูกคลื่นซัดเรือจม บริเวณทะเลด้านหน้าท่าเรือ ส.กฤตวัน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ห่างจากฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล ขณะกำลังจะกลับเข้าฝั่งจากการไดหมึก
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ถูกพายุซัดเสียหายอย่างหนัก ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่าง จ.น่าน และพิษณุโลก มีบ้านเรือนเสียหายรวมกว่า 40 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวนมาก
ไม่ต่างกับหลายอำเภอใน จ.นครราชสีมา และตัวเมืองศรีสะเกษ โรงเรียน อาคาร บ้านเรือนเสียหายไม่น้อยกว่า 300 หลัง เสาไฟฟ้าหักโค่น โดยเฉพาะ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 1 คน ถูกต้นไม้ล้มทับ ขณะขี่รถจักรยานยนต์
เตือนพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง-ลูกเห็บตก
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 11 เรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย (มีผลจนถึงวันที่ 22 มี.ค.2564)” โดยระบุ ประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า โดยจะมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยจะมีผลกระทบดังนี้
วันที่ 22 มี.ค.2564
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท อ่างทอง สระบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด