เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
อุตรดิตถ์ – ผู้เสียหายแห่แจ้งความดำเนินคดีสาวลับแลเปิด “บ้านออมเงินอุตรดิตถ์” ชวนออมเงินแลกดอกผลสูงถึง 32-34% สุดท้ายอ้างขาดทุนหวยใต้ดิน-ปล่อยกู้ บ้านออมเงินฯ ล้ม สูญทั้งต้นทั้งดอกกันกว่า 500 ราย รวมไม่ต่ำกว่า 8 ล้าน แต่เท้าแชร์เจ้าบ้านขับรถราคาเป็นล้าน
กรณีกลุ่มเยาวชน 8 รายจากหลายพื้นที่ ได้รวมตัวกันนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อให้ดำเนินคดี น.ส.นรินทร์สิริ อายุ 20 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.แม่พลู อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ หลังชักชวนให้ร่วมออมเงินในลักษณะแชร์ชื่อ “บ้านออมเงินอุตรดิตถ์” ก่อนยักยอกเงินกลุ่มลูกแชร์ จนเกิดความเสียหาย
น.ส.รริดา (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า ก่อนที่จะร่วมลงทุนออมเงินกับ “บ้านออมเงินอุตรดิตถ์-น.ส.นรินทร์สิริ” เพราะบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน และเคยเห็นเขาขายของทางออนไลน์มาก่อน ซึ่งเห็นว่าแต่ละวันขายได้เยอะมากๆ ถือเป็นคนดังในโลกออนไลน์ก็ว่าได้ ออกรถยนต์ด้วยเงินสดคันละกว่าล้านบาท จึงเกิดความเชื่อใจว่าเป็นคนขยัน หาเงินเก่ง
เมื่อ น.ส.นรินทร์สิริ ได้ลงสตอรีชักชวนการออมเงินตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2564 และเห็นว่าไม่มีทีท่าว่าจะเป็นคนโกง รวมทั้งผลตอบแทนสูง จึงร่วมลงทุนออมเงินไปด้วย จากหลัก 10 คน เป็น 100 คน เงินจากหลัก 100 เป็นหลัก 1,000 เป็นหลัก 10,000 และหลัก 100,000 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกำลังของเด็กๆ
ขณะที่คนที่รู้ข่าวแล้วมาร่วมลงทุนจากกลุ่มเล็กๆ ในอุตรดิตถ์ ก็เริ่มมีมาจากจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ ขยายไปหลายๆ จังหวัดภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนทั้ง ม.ต้น ม.ปลาย จนมากกว่า 500 ราย โดยกลุ่มแรกมีมากกว่า 380 ราย กลุ่มที่ 2 มากกว่า 200 ราย
ด้านดอกผลใน 1 เดือน ก็ให้ถึง 32-34% เช่น ฝาก 100,000 บาท จะได้ผลตอบแทน 135,000 บาท แรกๆ ให้ดอกผลใน 5 วัน 7 วัน 15 วัน และรายเดือน โดยวิธีการโอนเงินในกลุ่ม ชื่อ “เอ็ดดี๋ป่ายรี่ ให้กันและกัน” กระทั่งมีปัญหาการโอนเงินไม่ตรงตามกำหนด และล้มในที่สุด รวมความเสียหายไม่ต่ำกว่า 8 ล้านบาท
น.ส.รริดาบอกว่า มีคนในกลุ่มได้สอบถามไปยัง น.ส.นรินทร์สิริ ว่าทำอย่างไรบ้านออมเงินถึงล้ม ได้รับคำตอบว่าเสียเงินไปเป็นจำนวนมากจากการทำหวยใต้ดินกับการปล่อยกู้ แต่จะรับผิดชอบเงินของสมาชิกทั้งหมด แต่พูดแบบนี้มาเดือนสองเดือนแล้วคำพูดเหมือนๆ เดิมผัดผ่อนมาตลอด
“มีน้องบางคนในกลุ่มที่ร่วมลงทุน บ่นอยากฆ่าตัวตายเพราะได้นำเงินที่พ่อแม่ให้มาเป็นค่าเทอมมาร่วมลงทุนด้วยจนหมดตัว แม้แต่เงินจะซื้อข้าวกินยังไม่มี บ้างก็นำเงินที่เก็บสะสมไว้มาร่วมลงทุนเล่นด้วย”
ด้าน น.ส.ฐิติกาญจน์ ผู้เสียหายอีกราย บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง อุตรดิตถ์ แต่ไม่ยอมรับแจ้งความอ้างว่าพนักงานสอบสวนไม่มีหน้าที่เรื่องนี้ เนื่องจากการโอนเงินให้กันและกันโอนที่กรุงเทพฯ ต้องแจ้งความพื้นที่ที่โอน แต่หลังจากแจ้งสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ก็ได้โทร.ตามให้มาให้ปากคำเพิ่มเติม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องตรวจสอบเอกสาร สอบปากคำกลุ่มผู้เสียหาย พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะติดตามตัว น.ส.นรินทร์สิริ ผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป
ล่าสุดจากการตรวจสอบบ้านในพื้นที่ ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ที่ระบุในหลักฐานทางทะเบียนของผู้ถูกกล่าวหาพบว่ามีการปิดบ้านเงียบ ขณะที่นายพยัย สุกสา ผู้ใหญ่บ้านฯ บอกว่าเขาไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว เท่าที่รู้เขาไปเรียนหนังสืออยู่ที่พิษณุโลก
ขณะที่ผู้เสียหายที่พยายามติดตามตรวจสอบกันเองมาก่อนหน้านี้ ระบุว่าเจ้าของบ้านออมเงินอุตรดิตถ์หลบไปอาศัยอยู่บ้านแฟนที่จังหวัดนครสวรรค์