“ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผนึกกำลังชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เข้าตรวจยึดไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่ในโรงเลื่อยแห่งหนึ่ง พื้นที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ ได้แกะรอยติดตามรถบรรทุกไม้มาจากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ตรวจสอบเอกสารพบพิรุธหลายจุด โดยเฉพาะมีการแก้ไขบัญชีไม้ ขนาดของไม้ และจุดหมายปลายทางของไม้ นอกจากนี้ยังตรวจพบเครื่องจักรไม่ตรงกับบัญชีรายการ “
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ประสานให้นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ สั่งการชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (พญาเสือ) และหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ผนึกกำลังเข้าตรวจสอบ กรณีชุดพญาเสือได้แกะรอยติดตามไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่จากพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จนกระทั่งรถเป้าหมายขนไม้เข้ามาโรงเลื่อยจักรแห่งหนึ่งในตำบลบางระกำ อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปฏิบัติการครั้งนี้นำโดยนายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (พญาเสือ) และนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตำรวจกองกำกับการ 2 บก.ปทส. ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง ศูนย์ป่าไม้พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพระนครศรีอยุธยา และฝ่ายปกครองอำเภอนครหลวง
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้พบกับชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นผู้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนผู้เช่ากิจการ ซึ่งได้เช่าโรงงานแปรรูปไม้เพื่อทำการแปรรูปไม้จำหน่าย และรับจ้างแปรรูปไม้ให้กับบุคคลทั่วไปที่มาว่าจ้าง และได้นำเอกสารใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร สำเนาใบอนุญาตตั้งโรงงานไม้แปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร แต่จากการตรวจสอบปรากฏว่า ที่ตั้งเครื่องจักรไม่ถูกต้องตามแผนที่และแผนผังแสดงที่ตั้งเครื่องจักรกล และตรวจพบเครื่องจักรที่ไม่ปรากฏในรายการเครื่องจักรที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ ซึ่งอยู่ในระหว่างทำการแปรรูปไม้ 2 เครื่อง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไม้ที่กองอยู่บริเวณกองไม้ด้านนอกอาคารโรงงาน ซึ่งตรวจพบไม้มะค่าโมง 2 ท่อน ปริมาตร 1.2069 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นของชายคนหนึ่งได้ว่าจ้างให้แปรรูป เมื่อตรวจสอบเอกสารการได้มาของไม้กลับพบข้อพิรุธหลายจุด โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางของไม้ระบุพื้นที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่โรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ขนาดของไม้ก็ไม่ตรงกับเอกสาร และไม้ก็ไม่ตรงกับภาพประกอบไม้ที่แนบรายงานมาอีกด้วย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตรวจพบไม้มะค่าโมงแปรรูปอีก 45 แผ่น ปริมาตร 13.605ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นของชายคนหนึ่งได้ว่าจ้างให้แปรรูป เมื่อตรวจเอกสารหลักฐานพบว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก) ไม่ปรากฏการรับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าหนักงานที่ดินหรือเจ้าของที่ดิน นอกจากนี้หนังสือสัญญารับจ้างบรรทุกไม้ท่อนจากที่ดินกรรมสิทธิ์ มีการน้ำยาลบคำผิด และเขียนทับ ระบุว่ามีการขนย้ายไม้มะค่าจากน.ส. 3 ก จากจังหวัดสกลนคร ไปยังจังหวัดปทุมธานี แต่เหตุใดจึงมาอยู่ในโรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้และจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า หนังสือสัญญาฉบับนี้มีการถ่ายเอกสารสีและเขียนทับจำนวน 2 จุด คือวันที่และหมายเลขทะเบียนรถยนต์บรรทุก และหนังสือรับตนเองมีรอยการใช้น้ำยาลบคำผิดและแก้ไข 3 จุด คือ ขนาดความโต ขนาดความยาว และวันที่ และที่ผู้ใหญ่บ้านลงนามรับรอง
เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้มะค่าโมงแปรรูป 45 แผ่น ปริมาตร 13.605 ลูกบาศก์เมตร และไม้มะค่าโมงท่อน 2 ท่อน ปริมาตร 1.2069 ลูกบาศก์ และได้นำเรื่องราว พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนของโรงงานแปรรูปไม้ ที่มีเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุญาตใช้แปรรูปไม้อยู่ภายในโรงงาน ถือว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ว่าด้วยด้วยการควบคุมการแปรรูปไม้ เจ้าหน้าที่ได้มอบเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปพิจารณาดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.