เมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19 ) ที่ 3 /2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป เป็นคราวที่ 4 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 นั้น
เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดระลอกใหม่ ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในข้อ 4 (2) ของคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กํากับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อํานวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 โดยคําแนะนําของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 กระทรวงมหาดไทย จึงมีคําสั่ง ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไป ตามมาตรการตามข้อกําหนดฯ สําหรับเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กําหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคําสั่งนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างอื่น
สั่ง ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
ผู้อํานวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19
พื้นที่ควบคุม
1. กรุงเทพมหานคร 2. จังหวัดตาก 3. จังหวัดนครปฐม 4. จังหวัดนนทบุรี 5. จังหวัดปทุมธานี 6. จังหวัดราชบุรี 7. จังหวัดสมุทรปราการ 8. จังหวัดสมุทรสงคราม
รวมทั้งสิ้น 8 จังหวัด
พื้นที่เฝ้าระวังสูง
1. จังหวัดกาญจนบุรี 2. จังหวัดฉะเชิงเทรา 3. จังหวัดชลบุรี 4. จังหวัดชุมพร 5. จังหวัดนครนายก 6. จังหวัดนราธิวาส 7. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 8. จังหวัดเพชรบุรี 9. จังหวัดยะลา 10. จังหวัดระนอง 11. จังหวัดระยอง 12. จังหวัดสงขลา 13. จังหวัดสระบุรี 14. จังหวัดสุพรรณบุรี
รวมทั้งสิ้น 14 จังหวัด
พื้นที่เฝ้าระวัง
1. จังหวัดกระบี่ 2. จังหวัดกาฬสินธุ์ 3. จังหวัดกำแพงเพชร 4. จังหวัดขอนแก่น 5. จังหวัดจันทบุรี 6. จังหวัดชัยนาท 7. จังหวัดชัยภูมิ 8. จังหวัดเชียงราย 9. จังหวัดเชียงใหม่ 10. จังหวัดตรัง 11. จังหวัดตราด 12. จังหวัดนครพนม 13. จังหวัดนครราชสีมา 14. จังหวัดนครศรีธรรมราช 15. จังหวัดนครสวรรค์ 16. จังหวัดน่าน 17. จังหวัดบึงกาฬ 18. จังหวัดบุรีรัมย์ 19. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 20. จังหวัดปราจีนบุรี 21. จังหวัดปัตตานี 22. จังหวัดพะเยา 23. จังหวัดพังงา 24. จังหวัดพัทลุง 25. จังหวัดพิจิตร 26. จังหวัดพิษณุโลก 27. จังหวัดเพชรบูรณ์ 28. จังหวัดแพร่ 29. จังหวัดภูเก็ต 30. จังหวัดมหาสารคาม 31. จังหวัดมุกดาหาร 32. จังหวัดแม่ฮ่องสอน 33. จังหวัดยโสธร 34. จังหวัดร้อยเอ็ด 35. จังหวัดลพบุรี 36. จังหวัดลำปาง 37. จังหวัดลำพูน 38. จังหวัดเลย 39. จังหวัดศรีสะเกษ 40. จังหวัดสกลนคร 41. จังหวัดสตูล 42. จังหวัดสระแก้ว 43. จังหวัดสิงห์บุรี 44. จังหวัดสุโขทัย 45. จังหวัดสุราษฎร์ธานี 46. จังหวัดสุรินทร์ 47. จังหวัดหนองคาย 48. จังหวัดหนองบัวลำภู 49. จังหวัดอ่างทอง 50. จังหวัดอำนาจเจริญ 51. จังหวัดอุดรธานี 52. จังหวัดอุตรดิตถ์ 53. จังหวัดอุทัยธานี 54. จังหวัดอุบลราชธานี
รวมทั้งสิ้น 54จังหวัด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ขาดื่มเฮ! กทม. ให้นั่งดื่มในร้านได้ มีผลตั้งแต่คืนนี้ ‘ศบค.’ ปรับโซนสีพื้นที่ ตรึงเข้มงวด ‘สมุทรสาคร’