วันที่ 19 ก.พ. 2564 กลายเป็นกระแสฮือฮาอีกครั้ง สำหรับตำนานอุโมงค์วัดศรีชุม นอกจากจะมีอุโมงค์ลับฝั่งซ้าย (ปัจจุบันติดกรงเหล็กล็อคกุญแจห้ามขึ้น) ที่สามารถเดินขึ้นไปด้านบนของมณฑป ซึ่งครั้งหนึ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงใช้ทหารขึ้นไปอยู่หลังองค์ “พระอจนะ” เพื่อพูดปลุกขวัญทหาร จนกลายเป็นที่มาของตำนานพระพุทธรูปพูดได้แห่งวัดศรีชุมนั้น
ล่าสุดชาวสุโขทัยยังได้มีการแชร์เรื่องราว อุโมงค์ลับฝั่งขวาของมณฑปวัดศรีชุม (ปัจจุบันโบกปูนปิดตายทางลง) อีกด้วย ซึ่งตามตำนานเชื่อกันว่าสามารถเดินทะลุไปถึงเมืองเก่าศรีสัชนาลัย และออกไปยังถ้ำตรงบ่อศิลาแลงข้างวัดบรมธาตุ หรือวัดทุ่งยั้ง ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย และคนที่นี่ก็มีสำเนียงภาษาพูดเหมือนชาวสุโขทัยด้วยเช่นกัน
นายสมชาย เดือนเพ็ญ รองปลัดเทศบาลตำบลในเมือง และผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มจังหวัดมรดกโลกทางวัฒนธรรม จ.สุโขทัย กล่าวว่า บนเพดานอุโมงค์ฝั่งซ้ายวัดศรีชุม จะมีแผ่นหินชนวนสลักภาพลายเส้นเรื่องราวชาดกเก่าแก่ 700 ปี พร้อมตำนานพระพุทธรูปพูดได้ ส่วนอุโมงค์ฝั่งขวาก็มีคำบอกเล่ายืนยันจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ตอนเป็นเด็กเมื่อ 57 ปีก่อน เคยลงไปเล่นในอุโมงค์แล้วเจอหัวกะโหลกมนุษย์จำนวนมาก คนเฒ่าคนแก่บอกว่าทหารพม่าใช้พริกรมควันชาวบ้านที่มาหลบซ่อนตัว และบอกว่าลักษณะอุโมงค์ด้านในนั้นเป็นห้องโถงกว้าง และมีทางเดินเลี้ยวไปต่อได้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าสามารถเดินทะลุไปถึงเมืองเก่าศรีสัชนาลัย และไปถึงวัดทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
“ถ้าถามความเชื่อหลังจากที่ผมได้ไปมุดอุโมงค์กู๋จีที่เวียดนามมาแล้ว ก็เชื่อว่าตำนานอุโมงค์วัดศรีชุมนั้น มีความเป็นไปได้เช่นกัน ประกอบกับมีเรื่องราวและหลักฐานอื่นเชื่อมโยงอีกหลายอย่าง จึงทำให้เชื่อว่าตำนานอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้” นายสมชาย กล่าว
นายเคียง ชำนิ ครูโรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก (รางวัลวัฒนคุณาธร ปี 2555) และนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น กล่าวว่า ตำนานอุโมงค์วัดศรีชุม ส่วนตัวมองว่าเรื่องราวเหล่านี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่มีอย่างแน่นแฟ้น ระหว่างเมืองเก่าสุโขทัย เมืองเก่าศรีสัชนาลัย และเมืองเก่าทุ่งยั้ง ที่ต้องพึ่งพากันในยามศึกสงคราม
ส่วนอุโมงค์จะมีความยาว เหมือนอุโมงค์กู๋จีที่เวียดนามหรือไม่นั้น ไม่กล้ายืนยัน แต่ว่าเคยมีนักโบราณคดีลงไปขุดค้นหลักฐานในอุโมงค์วัดศรีชุมฝั่งขวา เขาบอกว่าพ้นอุโมงค์ทางเข้าไปจะเป็นห้องโถงกว้าง มีงูจงอางอยู่ และไม่รู้ว่าอุโมงค์ลึกแค่ไหน เพราะตอนลงไปสำรวจก็พังถล่มอยู่ก่อนแล้ว
ด้าน นายนิยมพร นพศรี ข้าราชการครูบำนาญ และกรรมการสภาวัฒนธรรม ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตรงบ่อศิลาแลงข้างวัดบรมธาตุ หรือวัดทุ่งยั้ง จะมีถ้ำอยู่ 2 แห่ง คนโบราณเล่าต่อกันมาว่าเป็นทางเดินเชื่อมไปถึงวัดศรีชุม ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย เคยมีฝูงวัวควายเดินเข้าถ้ำตรงนี้ แล้วไปโผล่ที่วัดศรีชุมด้วย โดยวัดทุ่งยั้งแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ สร้างสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย ยุคสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท และคนที่นี่ก็มีสำเนียงภาษาพูดเหมือนคนสุโขทัยด้วยเช่นกัน
โดย ภูเบศวร์ ฝ้ายเทศ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุโขทัย